Pages

Friday, September 14, 2012

มาเล่าขั้นตอนแบบละเอียดของการซื้อบ้านมือสอง เผื่อคนที่มีคำถามก็พอน่าจะได้คำตอบบ้างค่ะ

ตอนที่จะซื้อบ้าน รู้สึกว่าชีวิตวุ่นวายไปหมด คำถามก็มากมายเต็มหัว  แล้วก็ไม่รู้ว่าจะถามใครได้
ก็เลยว่าจะมาเล่าๆทิ้งเอาไว้ (แบบระบายความรู้สึกด้วยล่ะ)

1. เริ่มจากเดินดูบ้าน อยากได้หลังโน้นหลังนี้หลังนั้น โทรคุยราคาตามเบอร์ที่เค้าติดป้ายเอาไว้

2. พอตกลงราคาได้ ก็นัดคุยเรื่องขอโฉนดที่ดิน
   ตอนแรกเข้าใจว่าขอโฉนดไปลองประเมินราคาได้เลย เพราะว่าตอนที่เราจะขายบ้าน คนซื้อขอโฉนดก็ให้ไปเฉยๆ

แต่ เจ้าของบ้านนี่ บอกว่าต้องมัดจำมาก่อน (เป็นคำถามแรกที่เกิดขึ้น ว่าไม่มัดจำเนี่ยไม่ให้โฉนดเหรอ?) ก็มาหาข้อมูลจากเพื่อนในห้องนี้ ได้คำตอบว่า
"แล้วแต่ตกลงค่ะ"
อ้อ !! มัดจำเนี่ยมีแบบคืนเงินไม่คืนเงินด้วยนะ
ไอ่เราก็ซวยจริง เจอเจ้าของบ้านเขี้ยวสุดๆ ที่ตอนแรกบอกว่าจะเอามัดจำล้านนึง
เหอะๆ ตอนหลังมัดจำ 1 แสนค่ะ มัดจำถ้ากู้ไม่ผ่านไม่คืนเงิน o_0 ก็พึ่งมารู้ตอนหลังว่า
โดยปกติทั่วไปแล้วเค้าจะคืนเงินกัน

3. นัดวันทำสัญญาที่บ้านที่จะซื้อ โดยต้องอ่านสัญญาใ้ห้รอบคอบ ที่สำคัญก็มี
   - รายละเอียดค่าโอน ค่าภาษีต่างๆ ว่าผู้ขายหรือผู้ซื้อจะจ่าย
   - วัน Due date ว่าจะไปโอนบ้านกันภายในวันที่เท่าไหร่
   - มัดจำคืนหรือไม่ และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง
   - เลขที่โฉนดที่จะซื้อขาย รวมสิ่งปลูกสร้างด้วยก็ต้องเขียนรายละเอียด
   - ทำสัญญาสองฉบับข้อความเหมือนกันเด๊ะๆ
   นึกออกแค่เนี้ย

    แต่จังหวะนี้ก็เกือบโดนอีก 1 ดอก เพราะว่าตอนตกลงจะซื้อกัน (ด้วยปากเปล่า)
คนขายบอกว่าจะออกค่าโอนค่าภาษีให้หมด แต่พอวันเอาสัญญามา ระบุว่าออกคนละครึ่งซะงั้น
พอทักท้วงก็ทำเป็น งง งวย เ๊อ๊ะวันนั้นบอกคนละครึ่งไม่ใช่เหรอคะ เราก็โวยเลย คิดในใจแล้วว่า
ถ้าคนละึครึ่งก็ไม่ต้องซื้อไม่ต้องมัดจงมัดจำมันแล้ว ปรากฏว่าคนขายยอมออกให้ ก็เขียนสัญญาใหม่ค่ะ
เพื่อไม่ให้มีปัญหา

4. รีบเลยนะ รีบยื่นกู้เลย เพราะระบุในสัญญาแค่ 2 เดือน ก็เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
จริงๆ เราเตรียมเอกสารตั้งแต่ รอทำสัญญาจะซื้อจะขายกับคนขายแล้ว เหลือโฉนดอย่างเดียว
พอเซ็นต์ปุ๊ปก็ยื่นกับแบงค์ต่อได้เลย

5. พอกู้แบงค์ผ่าน แบงค์จะให้ไปเซ็นต์สัญญา จะกู้เงิน โดยในวันนั้น ก็จะมีค่าใช้จ่ายตามนี้
  - ค่าประกันอัคคีภัย
  - ค่าฟอากรแสตมป์
  - ค่าอะไรไม่รู้อีกอย่างจำไม่ได้
    เบ็ดเสร็จก็ประมาณ 9000 กว่าๆ

6. จากนั้น นัดวันโอนบ้านกับธนาคารที่เรายื่นกู้ และคนขาย กับธนาคารที่คนขายติดจำนองอยู่ เพื่อนัดวันไปโอนที่ที่ดิน
โดย ให้ทางคนขายถามยอดหนี้สุดท้ายที่ต้องจ่ายกับธนาคารมา เพื่อแยกเช็คจากแบงค์ที่เรากู้ออกเป็น 2 ใบ กรณี เงินที่ติดจำนองน้อยกว่าราคาซื้อขาย

7. ไปที่ที่ดิน ให้ธนาคารที่ยื่นกู้จัดการให้ โดยให้ธนาคารคุยกันเอง เอาโฉนดเข้าไปดำเนินการ
"ไถ่ถอน-ขาย-จำนอง" เสร็จแล้วก็รอค่ะ
ไปจ่ายค่าโอน รอจนโฉนดที่ดินออกมาปั๊ปเป็นชื่อเรา ตรวจสอบเลขที่โฉนดให้เรียบร้อย ถูกต้องหมด
ก็ รับเช็คจากธนาคาร เซ็นต์สลักหลัง จ่ายให้ธนาคารที่คนขายติดจำนอง อีกใบให้คนขาย เงินส่วนที่ยังขาดอยู่เหลือก็ให้เค้าไป (กู้ไม่ได้เท่าราคาซื้อค่ะ)

8. เรียบร้อยแล้วค่ะ ก็แยกย้ายๆๆๆ สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ
   - ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน
  - โอนมิเตอร์น้ำ + ไฟ
  - ซ่อมบา้น ให้อยู่ได้

เฮ้อออออออออออออ เหนื่อย

น่าจะพอเป็นแนวทางและก็ตอบคำถามสำหรับคนคิดจะซื้อบ้านมือสองได้พอสมควรค่ะ 

สำหรับเรา อาศัยค้นหาบ้านผ่านทางเน็ท
1. ดูโบรกเกอร์ที่น่าสนใจ
2. ดูรูปบ้าน ขนาดเนื่อที่บ้าน ราคาที่พอซื้อได้ ทำเลที่ต้องการ
3. พอใจที่ไหนก็โทรหาเซลล์เลย

ทำแบบนี้เกือบครึ่งปี กว่าจะได้บ้านที่ถูกใจใช่เลย ตอนนี้ก็อยู่บ้านนี้มา 4 เดือนแล้ว

ที่ ซื้อผ่านโบรกเกอร์ก็เพราะ เราไม่มีเวลาไปตรวจข้อมูลของบ้านที่จะซื้อเอง กลัวถูกเจ้าของบ้านหลอก  ไม่ต้องเสียเวลาไปยื่นกู้แบงค์เอง ไม่ต้องหาคนมาประเมินบ้าน นั่งรอวันโอนบ้านอย่างเดียว สบาย  

 ---------------------------

จากประสบการณ์จริง (เจอกับตัวเอง) ตอนไปโอนที่กรมที่ดิน แถวฝั่งธน ผมเจอเจ้าหน้าที่มือใหม่หัดทำ เธอคิดค่าธรรมเนียมผิดเกินไปตั้ง 2 หมื่นกว่าบาทแน่ะ ดีที่ผมศึกษาจากในข้อมูลของเพื่อน ๆ พี่ ๆ นี่แหละก็เลยพอมีความรู้บ้าง ก็ท้วงเธอไป เธอเลยเดินไปให้คนข้างหลังดู (คงเป็นหัวหน้า) ปรากฏว่าบ้านของผม (พ่อผม) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านมากว่า 20 ปีแล้ว ได้ลดหย่อนค่าธรรมเนียม แต่อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าคนแก่ ๆ หรือคนไม่เคยได้อ่านข้อมูลเลย มิต้องเสียเงินเกินโดยใช่เหตุหรือ สุดท้ายอีตาหัวหน้ายังบอกว่า เดี่ยวเขาก็ต้องตรวจสอบอีกทีอยู่ดี แต่ตอนนั้นจ่ายเงินออกใบเสร็จ ฯ ราคาที่เกินไปแล้วนะ (ต้องกลับไปออกใบเสร็จใหม่ และรับเงินคืน ที่การเงิน)  

---------------------------------
 แต่ละคนมีประสบการณ์ไม่เหมือนกันเลยค่ะ

ของเราเนี่ย ตอนคนมาประเมิน ไม่เห็นงี่เง่า ไม่จ้องเอาเงิน ไม่รับสินบนด้วยค่ะ
(แบบว่าเราก็ให้ ใส่ซองตั้ง 2 พัน เค้าไม่เอาอ่ะ)
เรื่องกลับไปประเมินอ่ะ เค้าก็ต้องกลับไปคำนวณอยู่แล้วค่ะ
เจ้าหน้าที่ประเมินเราดีมากๆเลย มาตรงเวลาเป๊ะๆ ทำๆ แล้วก็ไป ถามไรก็ตอบ

พอวันโอนก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ติดแค่ว่าช้ามาก รู้สึกได้เลยว่าตั้งใจแกล้ง
เพราะว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารที่ไป ทำให้ลูกค้าหลายรายมาก เราเป็นเจ้าแรก
แต่คนมาทีหลังเสร็จหมดก่อนแล้วค่ะ

ทีนี้ ทำจนติดเที่ยงก็ไม่เสร็จ คนขายบ้านให้คงรำคาญ เลยเดินไปบอกว่าเนี่ย
ทำงานเหนื่อยๆ อยากขอบคุณจัง ทำไงดี เค้าก็บอกว่าได้ขอบคุณแน่ค่ะ
ขอทำตรงนี้ให้เสร็จก่อน

จากนั้น ติดเที่ยงใช่มั๊ย ทุกคนเลิกงานหมดเลย ปิดไฟ ปิดแอร์
พอคนขายไปพูดแบบนั้นปั๊ป เค้าก็หาคนมาาทำงานต่อให้ พอเสร็จ
ก็ยัดเงินใส่มือไป 500 ไหว้อย่างงามเลยค่ะ ยิ้มแป้นเลย....

ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียม มันเป็นไปตามกฏระเบียบ ไม่อยากไปอะไรตรงนั้น
เพราะโดยส่วนตัวไม่ชอบแบบนี้เท่าไหร่คะ อีกอย่างคือลางานทั้งวัน
เลยใจเย็นๆ รอ แกล้งมันไปซะงั้น ไม่อยากให้เงิน

แหม คนขายไม่น่าใจร้อนเลยจริงๆ 
-------------------------------------

 เพิ่งเป็นหนี้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อไม่กี่วันนี้เองคับ

เหนื่อยมากคับ แต่แฟนผมคงเหนื่อยมากกว่า

เรื่องกู้ bank เป็นอะไรที่ไม่มีปัญหาเลย แค่เตรียมเอกสารให้พร้อม clear หนี้บัตรเครดิตซะให้หมด ทำสัญญาซื้อขายกัน ตกลงกันให้ดี

เรื่องคนมาประเมิน ฟังมาสารพัดเลย ว่างี่เง่า เรื่องมาก จ้องจะต่อรองเอาเงิน ฟังมาจากเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานมา เจอแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริงตอนมาประเมินไม่พูดอะไรเลย เราก็แกล้งแอบๆถามว่าจะประเมินได้เท่าไร เค้าก็ว่าต้องกลับไปคำนวนอีกที แอบให้ตังไป 200 แถมมานั่งรอ นัด 11 โมง มาตั้งแต่ 9 โมงกว่า เค้าก็ไม่รับอีก จนกระทังขู่ เอาไปเถอะ ค่าน้ำมันมอไซค์ละกัน

พอทุกอย่างผ่านก็เตรียมโอน ดันมีปัญหาอีก ปัญหาใหญ่เลยแหละ กว่าจะ clear ได้ คนที่กรมที่ดิน ก็ช่วยเต็มที่ โดยก็น่ะ พอนัดโอนเราก็บอกไปว่าขอเบอร์บัญชีหน่อยละกัน พี่ช่วยผมเยอะมากเลย เค้าก็ว่าไม่เป็นไร ไว้ถ้าจะให้อะไรก็ค่อยมาวันโอนอีกทีก็ได้ แล้วเค้าก็คำนวนที่จะต้องจ่ายให้ดู แล้วก็น่ะเค้าก้ว่า ไหนๆช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ค่าโดนของผมรวมทุกอย่างเลยนะ ประมาณ แสนสอง อ่ะ อย่างเราจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายว่ะเนี่ย แล้วเค้าก็ประมาณว่า เด๋วแก้ไขขนาดบ้านให้ คำนวนใหม่เหลือ แปดหมื่นนิดๆ อ่ะน่ะก็ช่วยเหลือกันไป

เรื่องนี้ผมก็ว่ามันไม่ได้ดีน่ะ แต่เงินเราเสียน้อยลงตั้งเยอะ ถึงไม่ดียังไง ผมก็เอาหล่ะคับ

 

1 comments:

Unknown said...

บริการ เปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้า / โอนมิเตอร์ไฟฟ้า ราคากันเอง

หลังจากโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดแล้ว ถ้าหากติดปัญหาการเปลี่ยนชื่อประกันมิเตอร์ไฟฟ้า มันยุ่งยาก หรือเสียเวลา ไม่เข้าใจ
เรารับเปลี่ยนชื่อมิเตอร์ไฟฟ้า ในราคาย่อมเยาว์ หากท่านสนใจใช้บริการ สามารถติดต่อได้ที่
คุณจอย 082-711-5153 , Line ID : joy- service
ขอบคุณค่ะ

Post a Comment