ตอนที่จะซื้อบ้าน รู้สึกว่าชีวิตวุ่นวายไปหมด คำถามก็มากมายเต็มหัว แล้วก็ไม่รู้ว่าจะถามใครได้
ก็เลยว่าจะมาเล่าๆทิ้งเอาไว้ (แบบระบายความรู้สึกด้วยล่ะ)
ก็เลยว่าจะมาเล่าๆทิ้งเอาไว้ (แบบระบายความรู้สึกด้วยล่ะ)
1. เริ่มจากเดินดูบ้าน อยากได้หลังโน้นหลังนี้หลังนั้น โทรคุยราคาตามเบอร์ที่เค้าติดป้ายเอาไว้
2. พอตกลงราคาได้ ก็นัดคุยเรื่องขอโฉนดที่ดิน
ตอนแรกเข้าใจว่าขอโฉนดไปลองประเมินราคาได้เลย เพราะว่าตอนที่เราจะขายบ้าน คนซื้อขอโฉนดก็ให้ไปเฉยๆ
แต่ เจ้าของบ้านนี่ บอกว่าต้องมัดจำมาก่อน (เป็นคำถามแรกที่เกิดขึ้น ว่าไม่มัดจำเนี่ยไม่ให้โฉนดเหรอ?) ก็มาหาข้อมูลจากเพื่อนในห้องนี้ ได้คำตอบว่า
"แล้วแต่ตกลงค่ะ"
อ้อ !! มัดจำเนี่ยมีแบบคืนเงินไม่คืนเงินด้วยนะ
ไอ่เราก็ซวยจริง เจอเจ้าของบ้านเขี้ยวสุดๆ ที่ตอนแรกบอกว่าจะเอามัดจำล้านนึง
เหอะๆ ตอนหลังมัดจำ 1 แสนค่ะ มัดจำถ้ากู้ไม่ผ่านไม่คืนเงิน o_0 ก็พึ่งมารู้ตอนหลังว่า
โดยปกติทั่วไปแล้วเค้าจะคืนเงินกัน
3. นัดวันทำสัญญาที่บ้านที่จะซื้อ โดยต้องอ่านสัญญาใ้ห้รอบคอบ ที่สำคัญก็มี
- รายละเอียดค่าโอน ค่าภาษีต่างๆ ว่าผู้ขายหรือผู้ซื้อจะจ่าย
- วัน Due date ว่าจะไปโอนบ้านกันภายในวันที่เท่าไหร่
- มัดจำคืนหรือไม่ และมีเงื่อนไขอะไรบ้าง
- เลขที่โฉนดที่จะซื้อขาย รวมสิ่งปลูกสร้างด้วยก็ต้องเขียนรายละเอียด
- ทำสัญญาสองฉบับข้อความเหมือนกันเด๊ะๆ
นึกออกแค่เนี้ย
แต่จังหวะนี้ก็เกือบโดนอีก 1 ดอก เพราะว่าตอนตกลงจะซื้อกัน (ด้วยปากเปล่า)
คนขายบอกว่าจะออกค่าโอนค่าภาษีให้หมด แต่พอวันเอาสัญญามา ระบุว่าออกคนละครึ่งซะงั้น
พอทักท้วงก็ทำเป็น งง งวย เ๊อ๊ะวันนั้นบอกคนละครึ่งไม่ใช่เหรอคะ เราก็โวยเลย คิดในใจแล้วว่า
ถ้าคนละึครึ่งก็ไม่ต้องซื้อไม่ต้องมัดจงมัดจำมันแล้ว ปรากฏว่าคนขายยอมออกให้ ก็เขียนสัญญาใหม่ค่ะ
เพื่อไม่ให้มีปัญหา
4. รีบเลยนะ รีบยื่นกู้เลย เพราะระบุในสัญญาแค่ 2 เดือน ก็เตรียมเอกสารให้เรียบร้อย
จริงๆ เราเตรียมเอกสารตั้งแต่ รอทำสัญญาจะซื้อจะขายกับคนขายแล้ว เหลือโฉนดอย่างเดียว
พอเซ็นต์ปุ๊ปก็ยื่นกับแบงค์ต่อได้เลย
5. พอกู้แบงค์ผ่าน แบงค์จะให้ไปเซ็นต์สัญญา จะกู้เงิน โดยในวันนั้น ก็จะมีค่าใช้จ่ายตามนี้
- ค่าประกันอัคคีภัย
- ค่าฟอากรแสตมป์
- ค่าอะไรไม่รู้อีกอย่างจำไม่ได้
เบ็ดเสร็จก็ประมาณ 9000 กว่าๆ
6. จากนั้น นัดวันโอนบ้านกับธนาคารที่เรายื่นกู้ และคนขาย กับธนาคารที่คนขายติดจำนองอยู่ เพื่อนัดวันไปโอนที่ที่ดิน
โดย ให้ทางคนขายถามยอดหนี้สุดท้ายที่ต้องจ่ายกับธนาคารมา เพื่อแยกเช็คจากแบงค์ที่เรากู้ออกเป็น 2 ใบ กรณี เงินที่ติดจำนองน้อยกว่าราคาซื้อขาย
7. ไปที่ที่ดิน ให้ธนาคารที่ยื่นกู้จัดการให้ โดยให้ธนาคารคุยกันเอง เอาโฉนดเข้าไปดำเนินการ
"ไถ่ถอน-ขาย-จำนอง" เสร็จแล้วก็รอค่ะ
ไปจ่ายค่าโอน รอจนโฉนดที่ดินออกมาปั๊ปเป็นชื่อเรา ตรวจสอบเลขที่โฉนดให้เรียบร้อย ถูกต้องหมด
ก็ รับเช็คจากธนาคาร เซ็นต์สลักหลัง จ่ายให้ธนาคารที่คนขายติดจำนอง อีกใบให้คนขาย เงินส่วนที่ยังขาดอยู่เหลือก็ให้เค้าไป (กู้ไม่ได้เท่าราคาซื้อค่ะ)
8. เรียบร้อยแล้วค่ะ ก็แยกย้ายๆๆๆ สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือ
- ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน
- โอนมิเตอร์น้ำ + ไฟ
- ซ่อมบา้น ให้อยู่ได้
เฮ้อออออออออออออ เหนื่อย
น่าจะพอเป็นแนวทางและก็ตอบคำถามสำหรับคนคิดจะซื้อบ้านมือสองได้พอสมควรค่ะ
---------------------------
---------------------------------
-------------------------------------
เพิ่งเป็นหนี้อย่างสมบูรณ์แบบเมื่อไม่กี่วันนี้เองคับ
เหนื่อยมากคับ แต่แฟนผมคงเหนื่อยมากกว่า
เรื่องกู้ bank เป็นอะไรที่ไม่มีปัญหาเลย แค่เตรียมเอกสารให้พร้อม clear หนี้บัตรเครดิตซะให้หมด ทำสัญญาซื้อขายกัน ตกลงกันให้ดี
เรื่องคนมาประเมิน ฟังมาสารพัดเลย ว่างี่เง่า เรื่องมาก จ้องจะต่อรองเอาเงิน ฟังมาจากเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานมา เจอแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริงตอนมาประเมินไม่พูดอะไรเลย เราก็แกล้งแอบๆถามว่าจะประเมินได้เท่าไร เค้าก็ว่าต้องกลับไปคำนวนอีกที แอบให้ตังไป 200 แถมมานั่งรอ นัด 11 โมง มาตั้งแต่ 9 โมงกว่า เค้าก็ไม่รับอีก จนกระทังขู่ เอาไปเถอะ ค่าน้ำมันมอไซค์ละกัน
พอทุกอย่างผ่านก็เตรียมโอน ดันมีปัญหาอีก ปัญหาใหญ่เลยแหละ กว่าจะ clear ได้ คนที่กรมที่ดิน ก็ช่วยเต็มที่ โดยก็น่ะ พอนัดโอนเราก็บอกไปว่าขอเบอร์บัญชีหน่อยละกัน พี่ช่วยผมเยอะมากเลย เค้าก็ว่าไม่เป็นไร ไว้ถ้าจะให้อะไรก็ค่อยมาวันโอนอีกทีก็ได้ แล้วเค้าก็คำนวนที่จะต้องจ่ายให้ดู แล้วก็น่ะเค้าก้ว่า ไหนๆช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ค่าโดนของผมรวมทุกอย่างเลยนะ ประมาณ แสนสอง อ่ะ อย่างเราจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายว่ะเนี่ย แล้วเค้าก็ประมาณว่า เด๋วแก้ไขขนาดบ้านให้ คำนวนใหม่เหลือ แปดหมื่นนิดๆ อ่ะน่ะก็ช่วยเหลือกันไป
เรื่องนี้ผมก็ว่ามันไม่ได้ดีน่ะ แต่เงินเราเสียน้อยลงตั้งเยอะ ถึงไม่ดียังไง ผมก็เอาหล่ะคับ
เหนื่อยมากคับ แต่แฟนผมคงเหนื่อยมากกว่า
เรื่องกู้ bank เป็นอะไรที่ไม่มีปัญหาเลย แค่เตรียมเอกสารให้พร้อม clear หนี้บัตรเครดิตซะให้หมด ทำสัญญาซื้อขายกัน ตกลงกันให้ดี
เรื่องคนมาประเมิน ฟังมาสารพัดเลย ว่างี่เง่า เรื่องมาก จ้องจะต่อรองเอาเงิน ฟังมาจากเพื่อนๆพี่ๆที่ทำงานมา เจอแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริงตอนมาประเมินไม่พูดอะไรเลย เราก็แกล้งแอบๆถามว่าจะประเมินได้เท่าไร เค้าก็ว่าต้องกลับไปคำนวนอีกที แอบให้ตังไป 200 แถมมานั่งรอ นัด 11 โมง มาตั้งแต่ 9 โมงกว่า เค้าก็ไม่รับอีก จนกระทังขู่ เอาไปเถอะ ค่าน้ำมันมอไซค์ละกัน
พอทุกอย่างผ่านก็เตรียมโอน ดันมีปัญหาอีก ปัญหาใหญ่เลยแหละ กว่าจะ clear ได้ คนที่กรมที่ดิน ก็ช่วยเต็มที่ โดยก็น่ะ พอนัดโอนเราก็บอกไปว่าขอเบอร์บัญชีหน่อยละกัน พี่ช่วยผมเยอะมากเลย เค้าก็ว่าไม่เป็นไร ไว้ถ้าจะให้อะไรก็ค่อยมาวันโอนอีกทีก็ได้ แล้วเค้าก็คำนวนที่จะต้องจ่ายให้ดู แล้วก็น่ะเค้าก้ว่า ไหนๆช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด ค่าโดนของผมรวมทุกอย่างเลยนะ ประมาณ แสนสอง อ่ะ อย่างเราจะไปหาเงินที่ไหนมาจ่ายว่ะเนี่ย แล้วเค้าก็ประมาณว่า เด๋วแก้ไขขนาดบ้านให้ คำนวนใหม่เหลือ แปดหมื่นนิดๆ อ่ะน่ะก็ช่วยเหลือกันไป
เรื่องนี้ผมก็ว่ามันไม่ได้ดีน่ะ แต่เงินเราเสียน้อยลงตั้งเยอะ ถึงไม่ดียังไง ผมก็เอาหล่ะคับ