Pages

Sunday, May 6, 2012

วิธีการซื้อบ้านมือสอง

            หลังจากหาบ้านมือสองมานาน6เดือนก็สำเร็จ เมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา เรียกว่าลำบากใช้ได้เลยที่เดียวเนื่องจากเพื่อนๆที่รู้จักกัน 10คน มีคนซื้อบ้านมือสองแค่2คน
ถามญาติๆก็ไม่ค่อยรู้  พอไปหาข้อมูลจากpantip.com ก็พบว่าไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก สรุปว่าต้องลงมือเอง หาเอง โทรนัดเอง
ช่วงที่หาบางเืดือนผมเคยไปดูบ้านเดือนล่ะ8หลังเลยที่เดียว พอหาซื้อบ้านมือสองได้สมใจ
บ้านที่ผมซื้อได้เป็นบ้านเดี่ยวหลังมุม ราคาถูกกว่าราคาประเมินของธนาคารถึง 30% และบ้านก็แซมแซมหมดแล้วเกือบ90% เข้าไปอยู่ได้เลย
ก็เลยอยากจะแชร์ประสบการณ์ตัวเองบ้าง เผื่อจะมีคนที่ผ่านมาอ่านได้รับประโยชน์ไปบ้าง

ทำไมต้องเป็นบ้านมือสอง
สำหรับ คนที่คิดจะซื้อบ้านสักหลัง ถ้าเป็นบ้านใหม่มือหนึ่งก็คงไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากมีsaleของโครงการจัดการให้ทุกอย่าง จนแทบไม่ต้องทำอะไรอยู่แล้ว แต่ผมมีความคิดว่าบ้านใหม่นั้น โครงการจัดสรรต้องกว้านซื้อที่ดินทั้งหมด แล้วแบ่งขายให้เรา ถ้าเราซื้อบ้าน 50ตรว แต่เราต้องจ่ายมากว่าราคาที่ดินจริง50 ตรว เราต้องจ่ายค่าที่ดินที่ตัดเป็นถนน ค่าที่ดินที่จัดทำเป็นสโมสรส่วนกลาง และผมเคยได้ยินผู้บริหารโครงการบ้านจัดสรรเคยออกมาบอกว่าบ้านหลังหนึ่งเค้า ได้กำไร30%

แสดงว่าเราต้องจ่ายแพงกว่าราคาจริงมาก ไม่งั้นบริษัทที่พัฒนาอสังหา ไม่กำไรมากมายขนาดนี้ บางคนบอกบ้านใหม่มียามปลอดภัย แต่ที่เห็นในกระทู้pantip มีบางแห่งมียามมีเหล็กดัดยังโดนขึ้น 5หลังรวด  อีกอย่างบ้านมือหนึ่งจะหาทำเลที่ถูกใจได้ยาก

ไอ้ทำเลที่อยู่ใจกลาง เมืองก็แพงโอเวอร์ ซื้อไม่ไหว ส่วนที่พอซื้อไหวก็ไกลออกไปจากเมือง20-30กิโล เพราะอย่างนั้นผมจึงเลือกซื้อบ้านมือสองท่าทางจะดีกว่า เพราะผมเห็นว่าเรื่องทำเลนั้นสำคัญกว่าเพราะบ้านเก่า ทุบทิ้งสร้างใหม่ได้ แต่ทำเลซื้อไปแล้วเลือกใหม่ไม่ได้ ต้องขายที่ทิ้งไปอย่างเดียว

อีก อย่างถ้ามองการซื้อบ้านเป็นการลงทุนระยะยาว บ้านมือสองบางหลังเจ้าของร้อนเงินขายถูกกว่าราคาประเมิน ทำให้เราได้กำไรตั้งแต่ซื้อบ้านเลย แต่บ้านใหม่ไม่มีกำไรทันทีที่ซื้อเพราะเจ้าของโครงการฟันกำไรไปแล้ว30% แต่บ้านใหม่จะได้ความสะดวกสบายมากกว่าทั้งการหาซื้อ และการขออนุมัติเงินกู้จากธนาคาร


แง่คิดจากบ้าน3หลังของคุณอาผม
ผม มีข้อคิดจากอาของผมคนหนึ่งตอนแต่งงาน อาของผมซื้อบ้านเทาวเฮาส์หลักเล็กๆ แต่พออามีลูก2คนเทาวเฮาส์ก็เริ่มเล็กลง อาจึงซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหม่
แต่ด้วยที่บ้านหลังเก่ายังผ่อนไม่หมดและยังขายไม่ได้ทันที จึงตัดสินใจซื้อบ้านเดี่ยวหลังใหม่ที่ไกลจากหลังเดิมไปมาก
และ เลือกบ้านที่ราคาถูกหนอยและอยู่ลึกเข้าไปในซอยมาก เมื่อลูกๆโตขึ้น จะให้ลูกกลับบ้านเอง ก็เกิดปัญหาเนื่องจาก ลูกๆไม่สามารถกลับเองได้
เนื่อง จากไม่มีรถประจำทางผ่านมีเพียงรถสองแถวซึ่ง2ชมจะผ่านมาที สร้างความลำบากในการไปรับไปส่งมาก อาผมจึงหาบ้านหลังใหม่ที่เดินทางสะดวกกว่า
และก็ย้ายไปอยู่บ้านหลัง ที่3่ที่ลูกๆเดินทางสะดวก แต่บ้านหลังที่2ขายออกยากกว่าเทาวเฮาส์หลังแรกมากเพราะราคาสูง จนป่านนี้ก็ยังขายไม่ออกปล่อยให้คนเช่าอยู่
ผมว่าการย้ายบ้านบ่อยๆมันไม่ ค่อยสนุกนัก การซื้อบ้านเดี่ยวแม้จะดีแต่ถ้าอยู่ซอยลึกไป อีกหนอยมีลูก ลูกๆเดินทางลำบากก็ไม่ไหว เพราะอย่างนี้ ถ้าคุณคิดจะแต่งงานมีลูกก็ควรเลือกบ้านเผื่อมีลูกไปเลย แม้จะเกินกำลังไปสักนิดหนอย แต่อนาคตรายได้เราคงมากขึ้นเรือยๆ

หลักที่ใช้เลือกบ้านมือสอง(ของผมคนเดียวนะ)
ก่อน อื่นต้องเลือกทำเลก่อน อย่าเอาแต่ถูกอย่างเดียว ที่ไหนก็ได้ จะทำให้หายาก และเสียงเวลาไปดูบ้านเหล่านั้น ควรกำหนดโซนที่ต้องการจริงๆ เพราะจริงๆแล้วแค่เขตเดียวก็มีบ้านเป็นพันๆหลังแล้ว ส่วนทำเลที่ผมต้องการคือ
  1. ต้องไม่ไกลจากบ้านเิดิมมาก เพราะจะได้ไปมาหาสู่กับแม่ผมได้บ่อยๆ
  2. ต้องอยู่ ในแนวรถไฟฟ้าสีม่วงที่จะเริ่มสร้างเป็นสายเเรก เพราะรับประกันได้ว่าเดินทางสะดวก และราคายังไม่สูงเกินไป (ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้วราคาคงสูงจนซื้อไม่ได้แน่ๆ)
  3. ต้องไม่อยู่ซอยลึกเกินไป คือต้องเดินจากปากซอยได้โดยไม่ลำบากเกินไป(สัก500เมตร)
  4. ต้องอยู่ไม่ไกลจากกลางใจเมืองมาก เมื่อต้องขับรถไปทำงานจะไม่ลำบากเกินไป
  5. ต้องไม่ข้ามสะพาน เวลาไปทำงาน(เพราะรถจะติดมากๆเวลาข้ามสะพานตอนชม.เร่งด่วน)
  6. ต้องอยู่ในซอยตัน เนื่องจากซอยที่ทะลุได้หลายทาง ขโมยจะชุมมากๆ
  7. ใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน(เผื่อเอารถขึ้นทางด่วนจะได้ง่าย)
  8. ใกล้โรงพยาบาล (เผื่อภรรยาท้อง จะได้ไม่ต้องออกลูกบนรถ)
  9. ใกล้ห้างสรรพสินค้า (แสดงว่าความเจริญเข้าถึง)
  10. ต้องมีinternet ความเร็วสูงเข้าถึง เพราะภรรยาทำธุรกิจบนnet
  11. ต้องราคาไม่เกิน 2.5ล้าน เพราะไม่อยากซื้อแพงเกินกำลังมากไป ถ้าตกงานแล้วจะลำบาก
ดู แล้วมันขัดๆกันเหมือนจะหาไม่ได้เลยนะ555 แต่ตลอด6เดือนผมหาเจอหลายหลังเลยนะ เพียงแต่บางหลังราคาแพงเกิน บางหลังต้องซ่อมมากจริงๆ บางหลังฮวงจุ้ยไม่ดี บางหลังสภาพแวดล้อมไม่ดี บางหลังสภาพดีตกแต่งแล้วแต่ซอยแคบมาก แออัดเกินไป

วิธีการหาบ้านมือสองที่ต้องการขาย
เริ่ม ต้นผมก่อนที่ผมจะเริ่มหาทาง internet ผมใช้วิธีถามเำื่พื่อนๆ ญาติๆว่าจะมีใครขายให้มาบอก ผลคือตลอด6เดือน ไม่มีคนไหนกลับมาบอกเลย 555 เลยต้องหาเอง
โดยผมขับรถไปรอบๆ บริเวณใกล้ๆบ้าน มองหาป้ายขายบ้าน ผลก็ไม่ work อีก เพราะหาแทบไม่เจอเลย เสียเวลามากอีกต่างหาก ผลเลยกลับมาหาบน Internet
หลังจากหามาบนnet มานานหลายเดือน ถ้าเราไม่ค่อยมีเวลาในการหามาก ผมลองมา้2วิธี
วิธีแรก ถ้า เราอยากได้บ้านมือสองบริเวณไหน ให้เข้าไป google แล้วพิมพ์ลงทำเลที่ต้องการไปเลย อย่างเช่น"บ้านมือสอง ซอยประชาชื่น25" เราจะเจอเกิอบทันที(ถ้ามีขายนะ)
แต่วิธีนี้มีข้อเสียที่น่ารำคาญคือ มันจะผลลัพธ์ขึ้นมามาก รวมทั้งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับบ้านมือสองด้วย หรือไม่ก็เจอบ้านที่จะขายแต่ว่า บางครั้งประกาศที่ลงไว้มันเก่ามาก
บาง ครั้งเจอบ้านที่ประกาศขายไปแล้วหลายปี อีกข้อเสียที่ทำให้น่าเจ็บใจคือบางหลังมันโดนใจเรามาก พอเราโทรไปจะขอซื้อ แต่ดันขายไปแล้วทั้งที่ลงประกาศไม่นาน
สาเหตุคือกว่า google จะเข้ามาเก็บหน้าประกาศอาจจะใช้เวลานาน บางwebอาจจะใช้เวลาุถึง2-3สัปดาห์ทำให้เราพลาดของดีๆไปเยอะเลยที่เดียว
พอ ผมหาวิธีนี้มาเกือบ4เดือน ก็เลยไม่ไหว ยอมแพ้เนื่องจากเข้ามาค้นหาที่ไร จะเจอบ้านหลังเดิมๆที่ขายไปแล้ว แถมบางหลังนี่ไปโพสไว้หลายเว็บ เห็นแต่หลังเดิมๆกันจนเอียนเลย

 วิธีที่2 ที่ผมใช้เนื่องจากเริ่มขึ้เกียจและเบื่อหน่ายการหากับ google แล้วผมเลยกลับมามองมุมคนขายบ้าง เพราะคนขายส่วนมากคงขยันไป ไฟสหลายๆเว็บหรอก
 ผมคิดว่าคนขายเอาวิธีง่ายๆ เหมือนกัน คือเข้าไปgoogle ค้นหาคำว่า "บ้านมือสอง" และคงไปpostไว้เว็บพวกนี้แค่ 3-4 เว็บที่แรกที่เจอก็พอ
 ผมก็เลยหาแต่เว็บที่ค้นหาด้วยคำว่า บ้านมือสองเจอแค่ 4อันดับเเรกพอ และส่วนมากเว็บบ้านมือสองเหล่านี้มีเครื่องมือใช้ค้นหาได้อย่างง่ายคือ ใส่ทำเล ราคา ประเภท ลงไปก็เจอเลย แต่วิธีนี้มีข้อเสียด้วยเหมือนกันคือบางทีมันหาไม่เจอเลย เพราะผมอาจจะเลือกแต่เทาวเฮาส์ ราคาไม่เกิน2.5ล้าน ในเขตบางซื่อ ทำให้ไม่เจอเลย
 บางทีผมเลยต้องใส่เงื่อนไขเป็นบ้านเดี่ยว ,บ้านแฝด บ้าง หรือเพิ่มวงเงินเป็น 3ล้านบ้าง ด้วยวิธีนี้ผมสามารถหาบ้านเจอมากกว่า 5หลังต่ออาทิตย์ในทำเลที่ต้องการ โดยใช้เวลาแค่วันล่ะ 30นาทีเท่านั้นในการค้นหา จากนั้นเข้าไปใช้ ้http://maps.google.co.th เพื่อลองดูว่าบ้านหลังนั้นอยู่ทำเลตรงไหน google map มีประโยชน์มากเพราะว่ามันสามารถวัดระยะทางละเอียดเป็นระดับเมตร และดูทิศทางที่ตั้งของบ้านได้ ดูความหนาแน่นของที่พักอาศัยได้จากภาพถ่ายดาวเทียมด้วย

เวลาเจอบ้าน สังเกตุว่าบ้านไหนลงประกาศขายแต่ไม่มีรูปบ้านลง หรือมีแต่รูปเล็กๆ ไม่ละเอียด ในนึกไว้ได้เลยว่าบ้านโทรมมาก ทำใจก่อนไปดูได้เลย (หรือจะไม่ไปดูเลยก็ได้) แต่ถ้าหลังไหนลงรูปละเอียด รูปใหญ่ๆ มีแผนที่แสดงว่าปรับปรุงแล้ว พร้อมขายได้ทันที


 โทรสอบถามข้อมูลเจ้าของบ้านเบื้องต้น
 พอผมได้เบอร์ติดต่อบ้านที่ต้องการมาก็ลองโทรไปเลยอย่าช้า ส่วนเรื่องที่จะถามก็ควรจะมีดังนี้
  1.  ขายไปหรือยัง(ถ้าขายไปแล้วจะได้ไม่เสียเวลาถามต่อ)
  2. เป็นบ้านของพี่เองหรือเปล่า(เป็นนายหน้าหรือเป็นของญาติ)
  3. อยู่แถวที่ลงไว้ในเว็บหรือเปล่า (ถามรายละเอียดให้ชัดเจน)
  4. บ้านที่จะขายพิ้นที่เท่าไร หันหน้าไปทางทิศไหน(สำหรับผมทิศใต้ดีทีสุด)
  5. บ้านปลูกมากี่ปีแล้ว (บ้านเก่าส่วนมากจะโครงสร้างดีนะ เพราะตอนนั้นปูนถูกอยู่)
  6. มีสมาคมหรือหัวหน้าหมู่บ้านหรือเปล่า(เผื่อมีค่าส่วนกลาง)
  7. ถนนในซอยกว้างกี่เมตร รถสวนกันสะดวกไหม
  8. ใกล้ชุมชนแออัดหรือเปล่า (เพราะชอบมีขึ้ยาเยอะ)
  9. เคยมีน้ำท่วม (ถ้าเค้ายอมตอบนะ หรือจะไปสืบจากบ้านข้่างๆก็ได้)
  10. เคยโดนขโมยขึ้นไหม (ถ้าเค้ายอมตอบนะ หรือ ถาม สถานีตำรวจในท้องที่นั้นก็ได้)
  11. เคยต่อเติมบ้านหรือเปล่า(ถ้าเคยได้ขออนุญาตเขตหรือเปล่า)
  12. ตอนนี้บ้านมีคนอยู่ไหม (ถ้ามีคนเช่า เค้ารู้หรือยังว่าต้องย้ายออก)
  13. ประกาศขายนานหรือยัง(ถ้านานแล้ว แสดงว่าไม่ค่อยมีคนสนใจ)
  14. ติดจำนองหรือเปล่า (ถึงไม่ตอบตามตรงเดี่ยวเรามีวิธีตรวจสอบ)
  15. ทำไมถึงขาย (ส่วนใหญ่ไม่ค่อยตอบตรงๆ แต่ถามดูก่อน เผื่อได้คำตอบ)
  จากนั้นเอาเลขที่บ้านหลังที่จะไปดูเอาไปค้นหาใน Google ดูว่ามีการฆ่ากันตาย หรือขโมยขึ้นบ้านหรือเปล่า ถ้าพอใจแล้วก็นัดไปดูบ้านกันเลย โดยมากผมจะหาบ้านที่อยู่เส้นทางเดียวกัน จากนั้นก็นัดเวลาเรียงกันไปตั้งแต่ 10โมง ยันบ่ายเลย แต่ควรเผื่อเวลาไว้ เวลาดูบ้านใช้เวลา20นาที-1ชม ดูหลังนึงก็เหนือยแล้ว ผมเคยนัดดูบ้านวันเดียว3หลังมาแล้ว เหนื่อยมากๆ เเทบสลบ อีกอย่างให้เตรียมกล้องถ่ายรูปไปด้วย แต่ก่อนถ่ายควรถามเจ้าของบ้านก่อนว่าถ่ายได้ไหม เี่ราจะได้นำมาพิจารณาทีหลังได้หลังจากกลับมาแล้ว ทางที่ดีควรถ่ายสภาพแวดล้อมบ้านข้างๆ ในซอยหรือถนนเข้าบ้านไว้ด้วยก็ดี


 ถ้า มีคนสนใจอ่าน ตอนหน้า ผมจะแยกประเภทของผู้ขายบ้านว่ามีกี่ประเภท (ที่ผมเคยเจอ) ว่าแต่ละประเภทเป็นอย่างไร ซื้อกับใครดีที่สุด ก่อนตัดสินใจซื้อควรทำอะไรบ้าง และวิธียื่นกู้บ้านมือสองกับแบงค์

0 comments:

Post a Comment