รายละเอียดที่สำคัญที่ต้องระบุไว้ใน หนังสือสัญญาจะซื้อจะขายบ้านมือสอง มีดังต่อไปนี้ค่ะ
1. ลักษณะของบ้าน (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวเฮาส์ ห้องแถว อาคารพาณิชย์) จำนวนชั้น
2. บ้านเลขที่ ถนน ซอย ตำบล อำเภอ จังหวัด
3. ตั้งอยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด
4. ราคาตกลงซื้อขาย
5. จำนวนเงินวางมัดจำครั้งที่ 1
6.
ค่าใช้จ่ายในการโอนว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ออก(โดยส่วนใหญ่ผู้ขายจะเป็นผู้ออก
ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้มักจะรวมอยู่ในราคาขายอยู่แล้ว) หรือจะจ่ายกันคนละครึ่ง
7. ระยะเวลาในการนัดเพื่อไปทำหนังสือสัญญาซื้อขาย
8. เงื่อนไขข้อความระบุถึงการผิดสัญญา
เช่นหากผู้จะซื้อทำผิดสัญญาให้ผู้จะขายสามารถยึดเงินมัดจำได้
หรือหากผู้จะขายทำผิดสัญญาต้องทำการคืนเงินมัดจำพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตรา
เท่ากับอัตราเงินฝากของธนาคาร
9. ชื่อผู้จะซื้อ ชื่อผู้จะขาย ชื่อพยานฝ่ายละ 2 คนเป็นอย่างน้อย พร้อมทั้งลายเซ็นกำกับ
10. ติดอากรแสตมป์เพื่อให้สัญญานั้นมีความสมบูรณ์ทางกฎหมาย
การทำหนังสือสัญญาซื้อขายอาจนัดไปทำสัญญากันที่บ้านของผู้ขายที่อาศัยอยู่ใน
ปัจจุบัน เผื่อมีปัญหาจะได้ติดตามได้ในภายหลัง
และหลังจากเราทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้วให้เราทำการถ่ายสำเนาของสัญญา
สำเนาโฉนด
สำเนาเอกสารส่วนตัวทั้งของเราและของเจ้าของโฉนดเพื่อไปดำเนินการทำธุระกรรม
ต่อไปดังนี้
1. เพื่อไปดำเนินการติดต่อธนาคารเพื่อยื่นขอสินเชื่อ
หลังจากนั้นธนาคารจะนัดวันเวลา เพื่อไปทำการประเมินราคาบ้าน
และรอเวลาอนุมัติต่อไป
2. เพื่อตรวจสอบการชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
ว่าเจ้าของบ้านเดิมค้างชำระไว้ จากสำนักงานเขตประปา สำนักงานเขตไฟฟ้า
และองค์การโทรศัพท์
3. ตรวจสอบว่าบ้านมีใบขออนุญาตก่อสร้างหรือไม่
บ้านสร้างผิดแบบหรือผิดเงื่อนไขการขออนุญาตก่อสร้าง
หรือมีการต่อเติมเพิ่มจากแบบที่ขออนุญาต
เพราะหากเจ้าของเดิมสร้างผิดแบบที่ขออนุญาต
แล้วสำนักงานเขตมาตรวจพบหลังจากที่เราซื้อบ้านไปแล้ว
ก็จะเป็นปัญหาให้เราต้องรื้อถอนในภายหลัง
หลังจากตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำการนัดเจ้าของบ้านทำหนังสือสัญญาซื้อขายอีกครั้งค่ะ
Sunday, May 6, 2012
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment