คำแนะนำเบื้องต้นในการซื้อ-ขายบ้านที่ดิน หรือที่อยู่อาศัย
โดยปกติเมื่อท่านคิดจะซื้อบ้านที่ดินหรือที่อยู่อาศัยสักหลังหนึ่ง
มักมองกันว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
เนื่องจากบ้านที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยมีราคาเป็นแสนเป็นล้าน
เหตุผลในการซื้อ-ขายบ้านที่ดิน หรือที่อยู่อาศัย
ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิตเพื่อการอยู่อาศัยและการพักผ่อน
(House) นอกจากนั้นบ้านที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยยังเป็นที่ที่ให้ความสุข
ความอบอุ่นร่มเย็น ความผูกพันธ์ในการสร้างครอบครัว (Home)
รวมถึงบ้านที่ดินหรือที่อยู่อาศัยยังเป็นสินทรัพย์ที่เหมาะในการลงทุน
(Investment) ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย
การตัดสินใจซื้อบ้านที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยสักหลัง
ที่มีราคาเป็นแสนเป็นล้านนั้น
จำเป็นต้องมีการเก็บหอมออมริบเงินดาวน์มาก่อนเป็นปี ๆ
และเมื่อได้เงินดาวน์มากพอแล้ว ก็ใช่ว่าจะหาซื้อบ้านที่ดิน
หรือที่อยู่อาศัยได้อย่างสะดวก เนื่องจากการตัดสินใจซื้อบ้านที่ดิน
หรือที่อยู่อาศัยนั้นต้องอาศัยความรอบรู้
ทักษะและปฏิภาณในการศึกษาและวิเคราะห์อย่างรอบคอบ
และต้องระมัดระวังอย่างมากในการตัดสินใจซื้อ
เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ
เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาตามสภาพความต้องการ
ตลาด,สภาพเศรษฐกิจ,สภาพบ้านที่ดินหรือที่อยู่อาศัย
รวมถึงยังต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนในการซื้อ-ขาย เช่น
การเสนอซื้อ,การเจรจาต่อรอง,การทำสัญญา,การโอนกรรมสิทธิ์(ค่า
ธรรมเนียม-อากร-ภาษี) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอื้ออำนวยต่อการถูกหลอกลวงได้ง่าย
ถ้าท่านผู้ซื้อขาดความรอบรู้ ขาดความระมัดระวัง
และเมื่อท่านผ่านขั้นตอนการซื้อบ้านที่ดินหรือที่อยู่อาศัยแล้ว
ท่านยังต้องมีภาระติดต่อหาแหล่งสนับสนุนเงินส่วนที่ขาดอีก
ถ้ามีสถาบันการเงินให้กู้จนได้เป็นเจ้าของบ้านแล้ว
เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ ท่านยังมีภาระในการผ่อนชำระเงินกู้เป็นรายเดือน
และใช้ระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ทั้งหมดหลายสิบปี ทำให้หลาย ๆ
ท่านมักรู้สึกไม่แน่ใจในการตัดสินใจของตัวเอง เพราะหลังจากซื้อบ้านที่ดิน
หรือที่อยู่อาศัยแล้ว ภาระการผ่อนชำระเงินกู้นั้นทำให้รายได้แต่ละเดือนลดลง
ทำให้เงินผ่อนที่จ่ายไปนั้นเป็นการสูญเสียโอกาสในการลงทุนหรือทำธุรกิจใน
ด้านอื่น ๆ
แต่ในความเป็นจริงแล้วในอีกแง่มุมหนึ่ง
ท่านได้เริ่มต้นลงทุนครั้งสำคัญในชีวิตแล้วอย่างไม่รู้ตัว
เนื่องจากเงินที่ท่านผ่อนส่งบ้านที่ดิน
หรือที่อยู่อาศัยนั้นไม่ได้หายไปไหน เป็นการทยอยลงทุนทีละน้อย
ยิ่งนานวันขึ้น เงินจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
และเมื่อวันใดที่ท่านขายบ้านที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยไป
เงินที่ลงทุนทั้งหมดจะได้กลับคืนมาในรูปเงินก้อนใหญ่
อีกทั้งเมื่อถือครองบ้านที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยมานานนั้น
ราคาหรือมูลค่าบ้านที่ดิน-ที่อยู่อาศัยนั้นมักปรับตัวเพิ่มขึ้น
เนื่องจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความปลอดภัยจากการสูญเสียเงินลง
ทุน และเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี
สาเหตุมาจากราคาอสังหาริมทรัพย์นั้นมีแนวโน้มปรับราคาหรือมูลค่าสูงขึ้นโดย
ตลอด เพราะบ้านเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต
แต่ที่ดินที่ใช้สร้างบ้านที่อยู่อาศัยมีจำกัด
ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เป็นสาเหตุทำให้ราคาบ้านและที่ดินปรับตัวสูงขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไปมากขึ้น
และอีกประเด็นคือเมื่อสภาพเศรษฐกิจเกิดภาวะเงินเฟ้อ
อสังหาริมทรัพย์จะมีการปรับราคาหรือมูลค่าสูงขึ้นมากกว่าภาวะเงินเฟ้อเสมอ
ทำให้สามารถคุ้มครองการลงทุนจากภาวะเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี.
Sunday, May 6, 2012
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
0 comments:
Post a Comment